พัทลุง - อธิบดีกรมอทุยานฯ ตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบบุกรุกป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด หลังกลุ่มนายทุน และผู้มีอิทธิพลเข้าบุกรุกป่า เพื่อปลูกยางพารา ซึ่งห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าเพียง 300 เมตร พร้อมสอบ ว่า มี จนท.ป่าไม้ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
วันที่ 1 ก.พ.55 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า จากกรณีกลุ่มนายทุน และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จังหวัดพัทลุง บุกรุกป่าต้นน้ำ ตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ เพื่อปลูกยางพาราใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ในท้องที่ ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกลาดเตย เพียงไม่ถึง 300 เมตร ได้รับความเสียหายนับพันไร่ โดยพบว่า บางแปลงเพิ่งถูกตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ เพียงไม่กี่วันเท่านั่น พร้อมทั้งสัพรอบต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อให้ยืนต้นตายอีกจำนวนมาก
ล่าสุด นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจปราบปราม การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า จากกรมอุทยานฯ โดยมี นายชัยยุทธิ์ คุณชมพู หัวหน้าชุด ลงพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด จ.พัทลุง ในท้องที่ ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ ที่ถูกกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพล เข้าไปแผ้วถางตัดถนน และปลูกยางพาราแล้ว และพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ มีการแผ้วถางทั้งเป็นแปลงเล็ก และแปลงใหญ่หลายจุด จากการสำรวจในวันนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจวัดพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางเพื่อปลูกยางพาราทั้งหมด 200 ไร่ และต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันกว่าจะสรุปได้แล้วเสร็จ
โดย นายชัยยุทธิ์ คุณชมพู หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการบุกรุกป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ถือเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีเนื้อที่ 9 แสนกว่าไร่ ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ตรัง จ.สตูล และพบว่า ในปัจจุบันได้มีกลุ่มนายทุนและชาวบ้านแผ้วถางบุกรุก เพื่อปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ป่าลดลงอย่างรวดเร็ว
ซึ่งการลงมาตรวจสอบในครั้งนี้ เพื่อหาข้อเท็จจริงในการบุก ว่า ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่อุทยานปล่อยปละละเลยมากน้อยแค่ไหน และมีส่วนได้ส่วนเสียกับกลุ่มนายทุนด้วยหรือไม่ หากพบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่เอง ก็จะทำรายงานส่งอธิบดีดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งพื้นที่ที่มีการแผ้วถางและปลูกยางพาราไปแล้วนั้นจะใช้กฎหมายเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่า มาตรา 25 ในการทำลายอาสิน และปลูกป่าทดแทนต่อไป
วันที่ 1 ก.พ.55 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า จากกรณีกลุ่มนายทุน และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จังหวัดพัทลุง บุกรุกป่าต้นน้ำ ตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ เพื่อปลูกยางพาราใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ในท้องที่ ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกลาดเตย เพียงไม่ถึง 300 เมตร ได้รับความเสียหายนับพันไร่ โดยพบว่า บางแปลงเพิ่งถูกตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ เพียงไม่กี่วันเท่านั่น พร้อมทั้งสัพรอบต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อให้ยืนต้นตายอีกจำนวนมาก
ล่าสุด นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจปราบปราม การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า จากกรมอุทยานฯ โดยมี นายชัยยุทธิ์ คุณชมพู หัวหน้าชุด ลงพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด จ.พัทลุง ในท้องที่ ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ ที่ถูกกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพล เข้าไปแผ้วถางตัดถนน และปลูกยางพาราแล้ว และพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ มีการแผ้วถางทั้งเป็นแปลงเล็ก และแปลงใหญ่หลายจุด จากการสำรวจในวันนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจวัดพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางเพื่อปลูกยางพาราทั้งหมด 200 ไร่ และต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันกว่าจะสรุปได้แล้วเสร็จ
โดย นายชัยยุทธิ์ คุณชมพู หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการบุกรุกป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ถือเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีเนื้อที่ 9 แสนกว่าไร่ ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ตรัง จ.สตูล และพบว่า ในปัจจุบันได้มีกลุ่มนายทุนและชาวบ้านแผ้วถางบุกรุก เพื่อปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ป่าลดลงอย่างรวดเร็ว
ซึ่งการลงมาตรวจสอบในครั้งนี้ เพื่อหาข้อเท็จจริงในการบุก ว่า ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่อุทยานปล่อยปละละเลยมากน้อยแค่ไหน และมีส่วนได้ส่วนเสียกับกลุ่มนายทุนด้วยหรือไม่ หากพบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่เอง ก็จะทำรายงานส่งอธิบดีดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งพื้นที่ที่มีการแผ้วถางและปลูกยางพาราไปแล้วนั้นจะใช้กฎหมายเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่า มาตรา 25 ในการทำลายอาสิน และปลูกป่าทดแทนต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป