2 ชุมชนต้นแบบระแงะจัดกิจกรรมเยียวยาจิตใจเด็กและเยาวชนจากผลกระทบไฟใต้

นราธิวาส - 2 หมู่บ้านในตันหยงมัส อ.ระแงะจัดโครงการพิทักษ์เด็กและเยาวชนพ้นภัยยาเสพติดของชุมชนต้นแบบ ในการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ
      
       วันที่ 17 ส.ค.54 ที่วัดชลธาราวาส บ้านร่อน ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดโครงการพิทักษ์เด็กและเยาวชนพ้นภัยยาเสพติดของชุมชนต้นแบบ บ้านร่อน บ้านไทย ในการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในพื้นที่ของ บ้านร่อน บ้านไทย มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี ทั้งการดำเนินกิจกรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับเยาวชนในรูปแบบต่างๆ เช่น การนำเด็กเข้าปฏิบัติธรรม จัดกิจกรรมวันแม่ กิจกรรมเนื่องในวันเด็ก และการส่งเสริมด้านกีฬา
      
       และที่สำหรับครั้งนี้มีการมุ่งเน้นจัดกิจกรรมในหัวข้อ “ห่วงใยบุตรหลาน รู้ทันยาเสพติด” เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการตระหนักถึงการดูแลบุตรหลานให้พ้นภัยยาเสพติด รวมถึงกิจกรรมครอบครัวสัมพันธ์ กิจกรรมอาสาสมัครพิทักษ์ชุมชนพ้นภัยยาเสพติด ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเยาวชนในหมู่บ้าน

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

รวบพนักงานขายบ้านจัดสรรส่งยาบ้าเข้าคุกตรัง

ตรัง - เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จ.ตรัง รวบพนักงานขายหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังเมืองตรัง นำยาบ้าและยาไอซ์ใส่แกงจืดผักกาดดองต้มกระดูกหมูส่งไปให้พี่ชายในคุก แต่เจ้าตัวอ้างเพื่อนสนิทพี่ชายฝากมาเยี่ยมโดยไม่รู้เห็นใดๆ
      
       เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 17 ส.ค.54  พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผกก.สภ.เมืองตรัง แถลงว่า ตนได้สั่งการให้ ร.ต.ท.โกสินทร์ นรสิงห์ รอง สวป.สภ.เมืองตรัง ไปประสานกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง เพื่อจับกุม น.ส.รุ่งอรุณ ศรีสุข อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/27 ถ.จริงจิตร ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง พร้อมของกลางยาบ้า 30 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 1 กรัม ซุกซ่อนใส่มาในถุงแกงจืดผักกาดดองต้มกระดูกหมู ขณะนำเข้าเยี่ยมนักโทษรายหนึ่งในเรือนจำ จ.ตรัง
      
       นอกจากนั้นยังทำการขยายผลเข้าตรวจค้นจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟีโน่ สีชมพู-ขาว หมายเลขทะเบียน ขพน 34 ตรัง แต่ไม่พบยาเสพติดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดรถคันดังกล่าว พร้อมโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่องไว้เป็นของกลาง แล้วนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองตรัง
      
       จากการสอบสวน น.ส.รุ่งอรุณให้การรับสารภาพว่า ทำงานเป็นพนักงานขายอาคารพาณิชย์ และหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง โดยก่อนถูกจับกุมได้เดินทางนำไข่เค็ม แกงไก่ และแกงจืดต้มผักกาดดองกระดูกหมูไปเยี่ยม นช.ชูเกียรติ ใหม่ซ้อน ซึ่งเป็นพี่ชายและถูกจำคุกในคดีจำหน่ายยาเสพติดในเรือนจำ จ.ตรัง โดยไม่ทราบว่าในถุงแกงจืดดังกล่าวมียาบ้าและยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ เนื่องจากเป็นของเพื่อนสนิทของพี่ชายที่ฝากให้ตนเองถือมาเยี่ยม จึงไม่ทราบว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดอยู่ข้างใน จนกระทั่งมาถูกนายธวัช สุขแก้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตรวจค้นพบยาบ้าและยาไอซ์ดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาแก่ น.ส.รุ่งอรุณ ว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
      
       โดยมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายกฤษณ์ วงศ์เวช ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ตรัง ได้มีมาตรการสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่เรือนจำทุกคนเข้มงวดในการตรวจค้นสิ่งของที่ญาตินำมาเยี่ยมเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามหลุดรอดเข้าไปถึงมือนักโทษ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปส่งให้นักโทษในเรือนจำ ได้ทั้งหมด 4 ราย ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะของการนำยาบ้าซุกซ่อนเข้าไปในถุงขนมและถุงแกง

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ตร.ยะลาตรวจยึดไม้ซุง คาดตัดจากป่าสงวนแห่งชาติ

ยะลา - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะลาตรวจยึดไม้ซุง จำนวน 4 ท่อน ขณะลำเลียงส่งโรงเลื่อยในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยที่ไม่มีเอกสารทางราชการมาแสดง จนท.จึงทำการยึดไม้ไว้เพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นไม้มาจากป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่
      
       วันที่ 17 ส.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกๆ สภ.ในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.ยะลา ให้ตรวจสอบรถบรรทุกสิบล้อทุกคันที่บรรทุกไม้ท่อนซุงขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในเขตป่าสงวน เพื่อน้อมรับพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องการดูแลทรัพย์ยากรธรรมชาติ และป่าไม้
      
       ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ส.ค.) เวลา 23.58 น. พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า บริเวณจุดตรวจท่าสาป ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา สามารถตรวจยึดรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อ HINO สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-0606 ยะลา บรรทุกไม้ซุงขนาดใหญ่เต็มคันรถ จำนวน 4 ท่อน โดยมีนายสุเทพ มาสแก้ว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/54 หมู่ที่ 10 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เป็นผู้ขับขี่
      
       โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบ นายสุเทพได้แสดงเอกสารเกี่ยวกับไม้ดังกล่าว แต่ไม่ใช่เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เนื่องจากเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่ และไม่ทราบว่าเป็นไม้ชนิดใด ประกอบกับไม่มีหนังสือรับรอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกไม้ซุงดังกล่าว เพื่อรอการตรวจสอบว่าไม้ซุง เป็นไม้ที่ตัดในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่
      
       นายสุเทพกล่าวว่า ตนเองรับจ้างขนไม้ดังกล่าวจากนายทุนในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ให้บรรทุกไม้ไปส่งที่โรงเลื่อยในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกข้อมูล และทำประวัติ พร้อมปล่อยตัวนายสุเทพไป
      
       พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.สภ.เมืองยะลา กล่าวว่า เป็นผลสืบเนื่องจาก สภ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ในพื้นที่ป่าสงวน ซึ่ง พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้มีนโยบายเข้มงวดให้ทุก สภ.ในพื้นที่มีการกวดขันรถบรรทุกสิบล้อที่วิ่งในช่วงดึก เพื่อเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในเรื่องการป้องกันรักษาป่าไม้ การตัดไม้ทำลายป่า ตนเองได้สั่งการให้จุดตรวจ จุดสกัด โดยเฉพาะจุดตรวจท่าสาป จุดตรวจมาลายูบางกอก และจุดตรวจขุนไว ตรวจสอบรถบรรทุกสิบล้อ
      
       เมื่อรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางจุดตรวจท่าสาป จึงได้มีการสกัดและตรวจสอบดังกล่าว โดยผู้ขับขี่ได้อ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม้ซุงดังกล่าวได้มาจากที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ อ้างว่าเป็นทรัพย์สินมาจากพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ ในช่วงสายวันนี้ ตนเองจะได้ทำบันทึกไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อทำการตรวจสอบไม้ซุงดังกล่าวว่าเป็นไม้ชนิดใด และตรวจสอบต้นตอที่มาของไม้ซุงต่อไป ซึ่งจากการข่าวที่ได้ทราบข้อมูลมานั้น เชื่อได้ว่าเป็นไม้ที่ตัดจากป่าสงวนแห่งชาติในพื้น อ.กรงปินัง หรือจากพื้นที่ใกล้เคียง

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

สลดเด็กหญิง 9 ขวบป่วยพุงโต-แขนขาลีบ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือค่ารักษา

ชุมพร-สลด เด็กหญิงวัย 9 ขวบ เป็นโรคประหลาดพุงโต ขาแขนลีบ ไม่มีเงินรักษา วอนผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล
      
       เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 ส.ค.54 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 10 ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร ว่าพบ 2 แม่ลูกถูกทอดทิ้งอย่างน่าเวทนา โดยลูกสาวป่วยเป็นโรคประหลาดท้องโตนอนรอความตายภายในบ้านพักเลขที่ 150/23 หมู่ที่ 10 ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร
      
       จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมง พบชาวบ้านหลายสิบคนกำลังนั่งรอให้กำลังใจอยู่ภายในบ้าน และพบกับ ด.ญ.สุภัสสรา บุญเกิด อายุ 9 ขวบ ลูกสาวของนางชูชีพ นิ่มน้อย อายุ 42 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ร่ายกายซูบผอมตาโหล ท้องป่องโต จนลุกขึ้นเดินไปไหนมาไหนไม่ได้
      
       นางชูชีพ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ด.ญ.สุภัสสรา ชื่อเล่นว่า “น้องกิ๊ฟ” เป็นลูกสาวของตนเอง ตอนเกิดมามีอาการปกติดีทุกประการ เป็นเด็กน่ารัก กระทั่งได้เข้าเรียนหนังสือจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนฝาหมิงกงลี ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร จนกระทั่งเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านไป “น้องกิ้ฟ” มีอาการเป็นไข้หวัดไปหาหมอที่โรงพยาบาลในตัวเมือง และให้ยามากินจนอาการหาย
      
       แต่เมื่อผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์ แขนขาของ “น้องกิ๊ฟ” ก็เริ่มบวมใหญ่ จึงพาไปหาหมออีกครั้ง ซึ่งหนนี้หมอบอกว่า เป็น โรคไตอักเสบ ให้ยามากินแล้วให้กลับบ้าน และจากนั้นอาการท้องโตของ”น้องกิ๊ฟ” ก็โตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันมีขนาดใหญ่มากเท่ากะละมังเลยทีเดียว ส่วนแขนขากลับลีบเล็กเรียว สร้างความเจ็บปวดทรมานให้แก่ “น้องกิ๊ฟ” อย่างมาก จนในที่สุดไม่สามารถเดินหรือยืนได้เหมือนคนปกติทั่วไป จนต้องหยุดเรียนหนังสือ
      
       นางชูชีพ กล่าวต่อว่า เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวก็พยายามมาให้การช่วยเหลือ แต่ด้วยความยากจนมีอาชีพเพียงรับจ้างเย็บอวนไปวันๆ เท่านั้น เงินที่เพื่อนบ้านช่วยเหลือ และเงินที่เก็บสะสมไว้ เกือบ 1 แสนบาท ก็ใช้รักษาน้องกิ๊ฟจนหมดเกลี้ยง อีกทั้งสามีก็ทิ้งไปมีเมียใหม่ไม่เคยสนใจให้ความช่วยเหลือแม้แต่น้อย
      
       ปัจจุบันมี นางวรรณา ณรงค์น้อย เถ้าแก่เรือประมงให้พักพิงที่อยู่อาศัย ประกอบกับไม่ค่อยมีเวลาไปรับจ้างทำงานเพราะต้องคอยนั่งเฝ้าประคับประคอง “น้องกิ๊ฟ” เพื่อไม่ให้เกิดแผลกดทับ เมื่อน้องกิ๊ฟหลับจึงได้ออกรับจ้างปะอวน แต่รู้สึกสงสารน้องกิ๊ฟมากในเวลาที่เจ็บปวดส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างเวทนา
      
       ขณะที่ ด.ญ.สุภัสสรา บุญเกิด น้องกิ๊ฟ ที่ยังพอจะพูดได้กล่าวทั้งน้ำตา ว่า อยากไปเรียนหนังสือ และอยากจะหายจากอาการป่วยมาก แต่รู้ว่าแม่ไม่มีเงิน จึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญเพื่อรักษาตัวเองให้หาย เพราะทุกวันต้องเจ็บปวดทรมานอย่างมาก และสงสารแม่ต้องมานั่งคอยมาดูแลตนเอง

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

พัทลุงเตรียมจัดงานวันโคส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ภาคใต้

พัทลุง - จังหวัดพัทลุงเตรียมจัดงานวันโคประจำปีครั้งที่ 29 เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมและเป็นขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในจังหวัดพัทลุง
      
       วันที่ 17 ส.ค.54 นายไพโรจน์ อินทรศรี ปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า จังหวัดพัทลุงเป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์ที่มีความสำคัญอีกจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ และมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในความครอบครองของเกษตรกรติดอันดับต้นๆ ของ 14 จังหวัด และสามารถสร้างเงินรายได้มาสู่จังหวัดพัทลุงประมาณ4,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการเลี้ยงสุกรมีรายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนการเลี้ยงโคนมก็แหล่งใหญ่และมีคุณภาพดีที่สุดในภาคใต้
      
       นายไพโรจน์กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมและเป็นขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง ร่วมกับสหกรณ์โคนมพัทลุง ได้กำหนดจัดงานวันโคประจำปีครั้งที่ 29 ในวันที่ 27 สิงหาคม ณ บริเวณสถานที่จัดงานทักษิณวิชาการเกษตรแฟร์ ครั้งที่ 7 มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
      
       ภายในบริเวณงานนอกจากจะมีการจัดนิทรรศการและสัมมนาทางวิชาการด้านปศุสัตว์แล้ว ยังมีการประกวดสัตว์ชิงรางวัลหลายๆ ประเภท ไม่ว่าจะเป็นการประกวดโคเนื้อลูกผสมเพศผู้-เพศเมียอายุ 1-2 ปี ประกวดโคบราห์มันเพศผู้เพศเมียอายุ 1-2 ปี โคเนื้อสายเลือดยุโรปเพศผู้ เพศเมีย อายุ 1-2 ปี ประกวดโคทั่วไปอายุ 2 ปีขึ้นไป
      
       ประกวดโคพันธุ์พื้นเมืองเพศผู้เพศเมีย อายุ 1-2 ปี ประกวดโคนมประเภทรีดนม โคสาวท้อง ประกวดโคสาว และลูกโคหย่านมเพศเมีย ประกวดแพะพันธุ์พื้นเมืองเพศผู้ เพศเมีย แพะลูกผสมเพศผู้ เพศเมีย และประกวดไก่คอล่อน ผู้ชนะการประกวดสัตว์ทุกประเพศรางวัลที่ 1-3 จะได้รับเกียรติบัตรพร้อมรางวัลเงินสด และผู้ที่จะส่งสัตว์เข้าประกวดจังหวัดพัทลุงเปิดโอกาสให้ผู้เลี้ยงสัตว์ทุกจังหวัดในภาคใต้ส่งสัตว์เข้าประกวดได้เช่นกัน

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์