แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวปัตตานี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวปัตตานี แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

ยิงถล่ม ตร.ทางหลวงปัตตานี-อส. ดับคารถ 3 ราย




ปัตตานี - คนร้ายใช้อาวุธสงครามถล่มยิงตำรวจทางหลวง และ อส.ใน อ.สายบุรี เสียชีวิตคารถ 3 ราย ตร.เชื่อคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตาย จึงฉวยโอกาสก่อเหตุสร้างสถานการณ์
      
       เมื่อเวลา 21.30 น. คืนวันที่ 11 ม.ค.56 พ.ต.อ.จีรเศรษฐ์ ดาวเงินตระกูล ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบนถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.11 บ้านกลาพอ ต.เตราะบอน จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งตำรวจทางหลวง หมายเลข 7506 ป้ายทะเบียน พล 1475 กทม. สภาพตกลงข้างทาง และมีรูกระสุนถูกยิงจนพรุนทั้งคัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถลากเพื่อนำขึ้นบนถนน
      
       เมื่อเปิดประตูรถปรากฏว่า พบผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย โดยเป็นตำรวจ 2 นาย ทราบชื่อคือ ด.ต.วรวิทย์ แก้วศรีอ่อน อายุ 43 ปี คนขับ ด.ต.ปฐมพงษ์ โต๊ะสามารถ อายุ 51 ปี นั่งข้างคนขับ ส่วนเบาะหลังผู้ตายเป็นอาสาสมัครประชาชน ทราบชื่อคือ นายรีแจ สุหลง อายุ 63 ปี ทั้ง 3 นายถูกยิงด้วยอาวุธสงครามหลายนัด ในที่เกิดเหตุบนถนนพบปลอกกระสุนทั้งเอ็ม 16 และอาก้าตกเกลื่อนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
      
       สอบสวนทราบว่า ขณะที่ทั้ง 3 กำลังออกตรวจพื้นที่ตามเส้นทางดังกล่าว โดยกำลังอีกส่วนหนึ่งได้ตั้งจุดตรวจอยู่หน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงกลาพอ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ปรากฏว่า ขณะที่กำลังเดินทางกลับหน่วยบริการประชาชนทางหลวงกลาพอนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถยนต์กระบะขับตามหลัง เมื่อได้โอกาสจึงถล่มยิงทันทีจนเกิดเสียงดังสนั่น เป็นเหตุให้รถเสียหลักตกข้างทางจนเสียชีวิตทันที 3 นาย
      
       ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่ายได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุทันที เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่ซึ่งรู้ความเคลื่อนไหนของผู้ตายว่าจะออกตรวจพื้นที่ จึงได้มีการวางแผนก่อนฉวยจังหวะก่อเหตุสร้างสถานการณ์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เผยโฉมมือเผากล้องวงจรปิด 7 ตัวในปัตตานี เร่งล่าตัวดำเนินคดี


 ปัตตานี - เผยโฉมมือเพลิงเผากล้องวงจรปิด 7 ตัวใน อ.หนองจิก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังตรวจสอบพบกล้องสามารถจับภาพคนร้ายได้ทุกจุด เร่งจับภาพใบหน้าคนร้ายมาเปรียบเทียบจากภาพแฟ้มประวัติ เชื่อรู้ตัวผู้ก่อเหตุแน่นอน
           วันที่ 26 ก.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ว่า เจ้าหน้าที่รู้เบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุเผากล้องวงจรปิดที่กลุ่มคนร้ายได้ลอบ วางเพลิงได้รับความเสียหายจำนวน 7 ตัวแล้ว โดยเหตุเกิดริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ม.2 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ช่วงกลางดึกของวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา
      
       ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.หนองจิก ระบุว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ ประมาณ 20-30 ปี ที่ใช้ไม้ยาวประมาณ 3 เมตร นำยางในรถจักรยานยนต์ราดน้ำมันเบนซินแล้วจุดไฟ ก่อนจะนำไปพาดไว้บนตัวกล้องจนได้รับความเสียหาย และบางจุดมีการใช้ไม้ทำลายด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดที่ถูกเผาสามารถจับภาพคนร้ายได้ทุก จุด
      
       โดยพบว่า มีกลุ่มคนร้าย 2-4 คน ใช้ผ้าปิดบังใบหน้าไม่ให้จำได้ ซึ่งบางจุดที่กล้องจับภาพใบหน้าคนร้ายได้ชัดเจนนั้น ขณะนี้กำลังนำภาพวงจรปิดที่จับภาพใบหน้าคนร้ายมาเปรียบเทียบจากภาพแฟ้ม ประวัติ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะรู้ตัวแน่นอน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปัตตานีตื่นเจอหินใสเป็นแก้วคล้ายเพชรบนเทือกเขาสันกาลาคีรี


ปัตตานี - ชาวบ้านบนเทือกเขาสันกาลาคีรี อ.โคกโพธิ์ตื่น เจอหินใสสีขาวเป็นแก้วใสคล้ายเพชรโผล่ขึ้นมาจากกองดินจำนวนมาก ทหารนำไปพิสูจน์เบื้องต้นพบว่า อาจจะเป็นแร่ฟลูออไรด์
      
       ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้นำหินใสสีขาวเป็นแก้วใสคล้ายเพชร ขนาดความใหญ่ 1 นิ้วครึ่ง ส่งให้แก่ทหารในพื้นที่ช่วยนำตรวจพิสูจน์ว่าเป็นเพชรหรือไม่ สำหรับหินใสดังกล่าวชาวบ้านเปิดเผยว่า พบโผล่ขึ้นมาตั้งกองอยู่เหนือดินจำนวนมาก จึงได้ช่วยกันเก็บนำไปซ่อน และไม่บอกถึงสถานที่พบเจอ เนื่องจากเกรงว่าหากเป็นเพชรจริงจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจเข้าหาทหารช่วยนำตรวจพิสูจน์
      
       ด้านศาสตราจารย์ ดร.ครองชัย หัตถา นักภูมิศาสตร์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้รับเรื่องและนำก้อนหินใสดังกล่าวเข้าห้องแล็บตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ถึงชนิดแร่ในเบื้องต้นด้วยการหยดกรด และมองผ่านกล้องจุลทรรศน์
      
       เบื้องต้นพบว่า หินใสดังกล่าวอาจจะเป็นแร่ฟลูออไรด์ซึ่งมีหลายสี ที่พบมากเป็นสีเขียวอ่อน, เขียวมรกต, ขาว, เหลืองอมน้ำตาล, น้ำเงินอมเขียวคราม และม่วง ลักษณะเป็นผลึกรูปต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลึกรูปลูกเต๋า อาจเกิดเป็นชั้นๆ หรือลักษณะเป็นลูกเหมือนพวงองุ่นมีความแข็งอยู่ที่ระดับ 4 สามารถใช้ตัดกระจกได้ด้วยลักษณะของแร่ที่โปร่งแสง หรือโปร่งใส มีความวาวคล้ายแก้ว ประโยชน์ใช้เป็นเชื้อถลุงในการถลุงเหล็ก ใช้ในอุตสาหกรรมอะลูมิเนียม ทำอุปกรณ์กล้องจุลทรรศน์ ใช้ผสมทำวัสดุเคลือบเหล็กและเหล็กกล้า ใช้ผสมทำอิฐพิเศษ ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตใยแก้ว และแก้วชนิดต่างๆ ผลิตแก๊สฟรีออน
      
       และหากเป็นเพชรความแข็งอยู่ที่ 10 จึงได้ระบุในเบื้องต้นว่า หินใสที่ชาวบ้านพบเป็นเพียงแร่ฟลูออไรด์ ไม่ใช่เพชร แต่จะมีการส่งตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

ประกบยิง รปภ.องค์การสะพานปลาเสียชีวิต ที่ปัตตานี

 ปัตตานี - คนร้ายประกอบยิง จนท.รปภ.องค์การสะพานปลา ที่ จ.ปัตตานี หลังจากเลิกงาน เสียชีวิตจบกองเลือด ตร.คาดประเด็นเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดทิ้ง การสร้างสถานการณ์
      
       วันที่ 29 มี.ค.55 เวลา 08.30 น พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันบนถนนสราญรมย์ ม.11 ต.บานา จึงได้นำกำลังไปที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือด สภาพถูกรถ จักรยานยนต์.ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ขกต 853 ปัตตานี ล้มทับอยู่ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายนพพร วงษาคง อายุ 59 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย องค์การสะพานปลา อยู่บ้านเลขที่ 286/58 ม.8 ต.บานา อ.เมืองปัตตานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เข้าศีรษะและลำตัว จำนวน 2 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนและกระสุนปืน ขนาด 11 มม.จำนวน 2 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
            สอบสวนทราบว่า หลังจากที่ผู้ตายออกเวรรักษาความปลอดภัยที่องค์การสะพานปลา ท่าเทียบเรือปัตตานี จึงได้ขับรถจักรยานยนต์เดินทางกลับบ้านพัก ปรากฏว่ามาถึงที่เกิดเหตุ ถูกคนร้าย 2 คนขับรถ จักรยานยนต์ตามประกบยิงจำนวน 4 นัดเสียชีวิตทันที ก่อนที่จะเร่งเครื่องหลบหนีไป
           หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้วิทยุไล่ติดตามคนร้ายพร้อมทั้งนำภาพ จากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบคาดว่าจะเห็นคนร้ายที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นเชื่อน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องงาน แต่ก็ไม่ตัดทิ้งประเด็นสร้างสถานการณ์
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

2 ทหารพรานรับจ๊อบลั่นไกดับคนขับรถตู้ กระสุนเฉี่ยวแก้มรอดตายหวุดหวิด

 ปัตตานี - 2 ทหารพรานรับจ๊อบเป็นมือปืนสังหารคนขับรถตู้ โชคดีกระสุนเฉี่ยวแก้มรอดตายหวุดหวิด สารภาพคนใกล้ชิดเป็นผู้จ้างวาน
      
       วันที่ 19 มี.ค.55 เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผบก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน บริเวณคิวรถตู้โดยสารปัตตานี - สุไหงโก-ลก ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ถ.พิพิธ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้บาดเจ็บได้ถูกนำส่งโรง พยาบาลปัตตานีแล้ว
      
       ทราบชื่อคือ นายอรรณพ ปูเต๊ะ อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้างขับรถตู้โดยสาร อยู่บ้านเลขที่ 299/3 หมู่ 9 ต.คายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 กระสุนเฉี่ยวบริเวณแก้มขวาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
          โดยหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางจุดตรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ถ.รามโกมุท ต.บานา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ทราบชื่อคือ อส.ทพ.สุทธิชากร รามแก้ว อายุ 22 ปี และ อส.ทพ.ซาอุดี เจ๊โด อายุ 40 ปี โดยทั้งสองเป็นอาสาสมัครทหารพราน กรมทหารพรานที่ 44 พร้อมอาวุธปืน .38 และ .357 รวม 2 กระบอก เจ้าหน้าที้จึงควบคุมตัวมาสืบสวนที่ สภ.เมืองปัตตานี
            ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธุ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ซึ่งทั้งสองรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างการคนใกล้ชิดของนายอรรณพ ซึ่งอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ด้วยจำนวนเงิน 100,000 บาท ให้สังหาร นายอรรณพ โดย อส.ทพ.ซาอุดี เป็นผู้รับว่าจ้างแล้วชวน อส.ทพ.สุทธิชากร ให้เป็นมือปืนร่วมลงมือก่อเหตุ โดยปืน .38 ที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นปืนเถื่อน และปืน .357 อีกกระบอกนั้น นายสุทธิชากร รับสารภาพว่า ได้ขโมยของพ่อมาเพื่อใช้ก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

ดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก 2 ทหารข่มขืนสาวมุสลิม ที่ปัตตานี


ปัตตานี - คดีทหารเกณฑ์ ภาคที่ 2 จำนวน 2 นาย ร่วมกับข่มขืนสาวมุสลิมอายุ 16 ปี ที่ปัตตานี เข้ามอบตัวที่ สภ.ยะรังแล้ว ถูก 3 ข้อหาหนัก ขณะที่หญิงสาวผู้เสียหายให้อัยการสอบปากคำ ขณะที่ทางโรงเรียนไม่ให้เรียนต่อ
      
       จากกรณีเหตุเกิดสลดใจในสังคมมุสลิมระหว่าง 22-24 มกราคม ที่ผ่านมาทหารเกณฑ์ กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 2 นาย ประจำฐานปฏิบัติการ ร้อย ร. 1333/1 ที่บริเวณ อบต.ตำบลระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยมีกำลังพล 30 นาย เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้าน จนกระทั่งเมื่อวันเวลาดังกล่าว ได้มีทหารเกณฑ์ละเมิดทางเพศหญิงสาวมุสลิมในพื้นที่ ที่มีอายุเพียงแค่ 16 ปี ซึ่งกำลังศึกษาในสถาบันเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใน จังหวัดยะลา โดยใช้ที่บริเวณด้านข้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลระแว้ง (ซึ่งอยู่ติดกับฐาน) เป็นที่ขืนใจเด็กสาวดังกล่าว
      
       จากนั้นเพื่อนทหารเกณฑ์ได้ถ่ายทำเป็นวิดีโอคลิป และเผยแพร่ทางโทรศัพท์ให้กับสาวที่เสียหาย ทำให้รู้กันทั่ว สร้างความอับอายให้กับสาวผู้เสียหาย และครอบครัวดังกล่าว และประชาชนในพื้นที่ต่างไม่พอใจกับการกระทำของทหารดังกล่าว มีการข่มขู่จะประท้วงขับไล่ทหารออกจากพื้นที่ แต่ก็สามารถเจรจา โดยชาวบ้านยื่นข้อเสนอให้ทหารย้ายฐานออกไป และให้ดำเนินคดีกับทหารเกณฑ์ทั้งสอง และเยียวยาเด็กสาวคนดังกล่าว จนกระทั่งมีการแจ้งความดำเนินคดีกับทหารชุดดังกล่าว และทหารทั้ง 2 นาย ถูกนำไปคุมขังในเรือนจำทหารที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
      
       ล่าสุดวันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้มีทหารพร้อมกำลังทหาร 10 นาย ได้นำตัว พลทหารวินัย กลางวิชัย อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนหญิงสาวอายุ 16 ปี พร้อมด้วย พลทหารสมยศ จันทรพุฒ ผู้ที่ทำหน้าที่ถ่ายคลิปไปเผยแพร่ ในสภาพผู้ต้องหาทั้ง 2 ถูกโซ่ตรวน และล๊อกด้วยกุญแจที่ขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้หลบหนี นำมามอบตัวกับ พ.ต.ท.อันธีร์ ก่ออารีย์ รอง ผกก.สอบสวน และร้อยเวร พนักงานสอบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี
      
       จากนั้นตำรวจรับตัวทั้ง 2 นายแล้วจึงนำไว้ในห้องขัง สภ.ยะรัง ในระหว่างรอเรียกตัวมาสอบปากคำทีละคน โดยมี ร.ท.ธิติพงษ์ หลงสุพรหม ผบ.ร้อย ร.1331 ฉก.ปัตตานี 21 ร่วมรับฟังการสอบสวน พร้อมทั้ง สอบปากคำ โดยผู้ต้องหาได้ลำดับเหตุการณ์ ก่อนวันเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้นำคลิปวีดีโอมาให้ทหารเกณฑ์ทั้งสองคนดู ซึ่งปรากฏว่า ทั้ง 2 ยอมรับสารภาพ ว่าเป็นภาพถ่ายของตัวเอง
      
       จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาจำนวน 3 ข้อหาคือ 1.ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา, 2.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร และ 3.ร่วมกันพาเด็ก อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยหญิงไม่เต็มใจ
      
       หลังจากทราบข้อกล่าวหาทำให้ทหารเกณฑ์ทั้ง 2 นายสีหน้าไม่ค่อยดี จนกระทั่งเย็นวันเดียวกันนี้ ร.ท.ธิติพงษ์ หลงสุพรหม ได้นำทหารเกณฑ์ทั้ง 2 นาย ไปฝากขังต่อที่เรือนจำค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อีก 12 วันต่อไป
      
       ทางด้าน พ.ต.ท.อันธีร์ ก่ออารีย์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี เผยว่า จากนี้ไปก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อสรุปคดี ส่งให้อัยการ และศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไป แต่ยังต้องรอใบรับรองทางการแพทย์จากการชันสูตร เรื่องของร่องรอยการถูกข่มขืน และสารคัดหลั่ง เมื่อได้ใบรับรอง เรียบร้อยก็สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่สำคัญ และเป็นที่สนใจของประชาชน และสะเทือนใจส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งทางครอบครัว และหญิงสาว รวมถึง ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทางพนักงานสอบสวน จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดภายในเดือนนี้คงจะเรียบร้อย
      
       ด้าน ร.ต.ท.วิรุฬท์ โต๊ะเอียด พนักงานสอบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี พร้อมด้วยพ่อแม่ ของหญิงสาวมุสลิมที่ถูกข่มขืนนั้น ได้นำ ผู้เสียหาย ไปสอบปากคำ ที่ห้องสอบปากคำเด็ก ที่สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักสังคมจิตวิทยา, ทนายความ ,อัยการ, พ่อแม่ของหญิงสาว ร่วมรับฟัง โดยให้ผู้เสียหายลำดับเหตุการณ์ความเป็นมา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
      
       ทางฝ่ายพ่อเปิดเผยว่า สงสารลูก ร้องไห้ตลอดเวลา รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่ซ้ำเติมกับครอบครัวและอนาคตของลูก โดยทางโรงเรียนที่ต้นสังกัดที่เรียนอยู่ ได้รับแจ้งว่าไม่ให้ลูกสอบปลายเทอม ทำให้ลูกสาวหมดอนาคตทันที ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงเรียนไม่น่าทำร้ายเด็กเมื่อลูกสาวถูกเหตุการณ์ไปแล้ว น่าจะยื่นมือมาช่วยบ้างหรือเห็นใจ แต่เป็นการตัดอนาคตของเด็ก วอนให้ทุกฝ่ายฝากดูแลด้วย ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการเยียวยานั้น เงินตีค่าความเสียหายที่ทหารทำขึ้นไม่ได้ แต่อนาคตของเด็กต้องเยียวยาตามความเหมาะสม
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พันเอกชินกาจ รัตนจิตติ รอง ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วย พันโทนิสิต สมานมิตร ผบ.ฉก.ปัตตานี 21 ได้เดินทางไปพบกับ พ่อ และแม่ของเด็ก และเล่าถึงดำเนินการไปแล้ว ทั้งย้ายฐาน และดำเนินคดีกับทหารเกณฑ์ทั้ง 2 นาย แต่ยังมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับค่าเยียวยานั้น จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งทางพ่อแม่ ไม่สามารถที่จะบอกได้ โดยอ้างว่า เรื่องค่าของเงินไม่ใช่เป็นปัญหาสำคัญ แต่อนาคตของเด็กที่ถูกประจานไปทั่ว รวมถึงไม่สามารถเรียนต่อได้ ซึ่งทางพ่อแม่ให้ไปพิจารณาเองว่าความเหมาะสมอย่างไร
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ปลาในกระชังปัตตานีตายเพิ่มนับแสนแม้ชลประทานปล่อยน้ำแล้วก็ไม่ทันการณ์


ปัตตานี - ปลาในกระชัง อ.หนอกจิก ยังคงตาเพิ่มนับแสน แม้ชลประทานปัตตานีจะปล่อยน้ำตามปกติแล้วแต่ก็ไม่ทันการ เนื่องจากปลาอ่อนเพลียจากการขาดออกซิเจนประกอบกับปลาที่ตายก่อนหน้าเริ่มน้ำ เสียส่งกลิ่นเหม็นและทำให้น้ำเริ่มเน่าเสียแล้ว
      
       จากกรณีสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี (เขื่อนชลประทาน) ได้งดจ่ายน้ำลงสู่แม่น้ำปัตตานี ทำให้คลองตุยงมีระดับน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประชาชนที่เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง ใน 3 ตำบล ได้แก่ ต.เกาะเปาะ ต.ตุยง และ ต.ดอนรัก ของพื้นที่อำเภอหนองจิก ตลอดแนวคลองกว่า 5 กิโลเมตร ตายเป็นเบือกว่า 3แสนตัว เนื่องจากขาดออกซิเจนหายใจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดวานนี้ (5 มี.ค.) นายปัญญศักดิ์ โสภณวสุ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางไปสำรวจความเสียหายอีกครั้ง หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่เลี้ยงปลากระชังในพื้นที่ดังกล่าวว่า ปลาที่เลี้ยงไว้ได้ทยอยตายเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถึงแม้ว่าเขื่อนชลประทานหรือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานีได้เริ่ม ปล่อยน้ำเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่เนื่องจากปลามีอาการอ่อนเพลียอย่างมากจากการปรับตัวให้เข้ากับระดับน้ำ ที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับน้ำในลำคลองเริ่มมีกลิ่นเหม็นและเน่าเสีย เนื่องจากปลาในกระชังที่ตายเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านยังไม่สามารถนำซากปลาที่ตายแล้วขึ้นมาได้ทั้งหมด จึงทำให้ปลาที่ยังรอดอยู่ตายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
      
       และชาวบ้านยังรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้ามาช่วย เหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากหากพึ่งเพียงแค่เกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังแก้ปัญหากันเอง อาจจะทำให้ความเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีก
      
       นายแวอาแซ หะยีลาเต๊ะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านปะกาลือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเขื่อนชลประทานได้เปิดประตูระบายน้ำแล้ว แต่ก็ไม่ทันการเนื่องจากปลาที่น็อคน้ำและไม่แข็งแรงก็ยังคงตายลงอย่างต่อ เนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ เวลาชลประทานปล่อยน้ำก็มักจะปล่อยเสียจนท่วมพืชสวนไร่นาจนเสียหาย เมื่อปิดน้ำก็ทำให้ปลาที่เลี้ยงในกระชังกว่า 1 พันกระชังตายอีก จึงก่อให้เกิดปัญหาระหว่างชาวบ้านกับชลประทานมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
      
       อย่างไรก็ตาม ปลาทับทิมของชาวบ้านยังคงตายอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านจึงต้องนำปลาที่ตายไปขายให้โรงงานอาหารสัตว์ในราคาถูก กิโลกรัมละ 1-2 บาท ในบางรายที่ปลาตายมากจนเจ้าของหมดกำลังใจก็ปล่อยให้ปลาตายจนเต็มลำคลอง ส่งผลให้ปลาเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณสร้างผลกระทบกับชาวบ้านใน ระแวงดังกล่าว อีกทั้งทำให้แม่น้ำเกิดเน่าเสียด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กรรมาธิการฯตรวจสอบคดีทหารยิงชาวบ้าน 4 ศพ ยันต้องแล้วเสร็จภายใน 30 วัน

ปัตตานี - คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติลง พื้นที่ตรวจสอบเหตุทหารยิงชาวบ้าน 4 ศพ ยันจะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
      
       วันที่ 10 ก.พ.55 ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี พล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ จำนวน 30 คน ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการติดตามผลการสืบสวนสอบสวนกรณีเหตุการณ์ทหารพรานใช้อาวุธปืนยิงชาว บ้านจนเสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บ 5 ราย ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา
      
       โดยมีนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พล.ต.ทไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต. พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.ประกิจ ทับทอง รอง ผบ.ฉก.ปัตตานี และตัวแทนจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวสรุปเหตุการณ์และการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ดังกล่าวให้กับคณะกรรมาธิการฯ และนายา ดือราแม ซึ่งเป็น 1 ในผู้รอดชีวิต รวมทั้งญาติ และตัวแทนชาวบ้านที่ร่วมประชุมรับฟัง
      
       ด้าน พล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า หลังจากที่ได้รับฟังจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน. ซึ่งทุกฝ่ายโดยเฉพาะทาง กอ.รมน.ได้พยายามที่จะแก้ปัญหาไม่ให้ลุกลาม และได้มีการเยียวยากับผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วเบื้องต้น
      
       ที่สำคัญหากมีผู้กระทำผิดก็ต้องได้รับโทษทางกฎหมาย ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 4 รวมไปถึงพนักงานสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมและการพิจารณาจะไต่สวนกันในศาล โดยทางญาติสามารถตั้งทนายได้
      
       “ส่วนการเยียวยานั้นวันนี้ยังไม่ได้พูดกัน ซึ่งตนจะคุยกับผู้ได้รับผลกระทบอีกครั้ง และจะมีการดูแลความปลอดภัยทั้งผู้เสียหาย หรือญาติและพยานอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาทางกองทัพ รัฐบาล ก็ได้ร่วมกันแก้ปัญหาเป็นไปอย่างที่น่าพอใจ โดยทางคณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการจะติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด โดยการสอบสวนจะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ไม่เกิน 90 วันพล.ต.อ.วิรุฬห์ กล่าว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คนร้ายกราดยิงโหดหวังฆ่ายกครัว แม่ดับคาที่ พ่อ-ลูกเจ็บสาหัส

ปัตตานี-คนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงชาวบ้านหวังฆ่ายกครอบครัว แม่ดับคาที่ พ่อและลูกชาย 8 ขวบเจ็บสาหัส
 วันที่ 3 ก.พ.55  เมื่อเวลา 06.30 น. พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสาย 42 นราธิวาส-ปัตตานี ม.5 ต.ละหาร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า จอดอยู่บนถนน สภาพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามจนพรุนทั้งคัน
      
       พบผู้ได้รับบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนถนนด้านหลังรถ 1 ราย และมีเด็กชายนอนเจ็บอยู่ในรถอีก 1 ราย จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลบาเจาะ จ.นราธิวาส ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายกอเดร์ ลีเฮง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และ ด.ช.อัฟฟาน ลีเฮง อายุ 8 ปี ลูกชาย โดยทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามที่ลำตัวอาการสาหัส
      
       ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ทราบชื่อคือ นางสากีน๊ะ พิทักษ์ อายุ 35 ปี ภรรยาของนายกอเดร์ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธสงครามตามลำตัวหลายนัด นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนอาก้าและเอ็ม 16 ตกเกลื่อนบนถนน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
      
       สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายกอเดร์และครอบครัวรวม 3 คนขับขี่รถเก๋งคันดังกล่าวมาจากบ้านพักเพื่อเข้าตัว อ.สายบุรี ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายใช้รถยนต์ตามประกบก่อนจะใช้อาวุธ สงครามกราดยิงหลายสิบนัด นายกอเดร์จึงใช้อาวุธปืนยิงสู้จนคนร้ายหลบหนีไป ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุพบว่าภรรยานายกอเดร์เสียชีวิตคารถ ส่วนลูกชายบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก้อเหตุไม่สงบสร้างสถานการณ์ไฟใต้รายวัน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

โจรใต้ยิง M79 ถล่มตำรวจในวัด CCTVจับภาพคนร้ายได้ ที่ปัตตานี

ปัตตานี - คนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ยิงถล่มฐานปฏิบัติการณ์ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยวัด ที่ตั้งอยู่ภายในวัดสถิตชลทาน จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ขณะที่กล้องวงจรปิดของวัดสามารถจับภาพของกลุ่มคนร้ายไว้ได้              เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 1 ก.พ.55  พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำกำลังเข้าไปตรวจสอบเหตุคนร้ายซุ่มโจมตีฐานปฏิบัติการณ์ตำรวจชุดรักษาความ ปลอดภัยวัด ที่ตั้งอยู่ภายในวัดสถิตชลทาน ม.2 ต.บางตาวา เมื่อไปถึงพบว่า สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน จำนวน 15 นาย เข้าตรึงพื้นที่หลังจากการปะทะกับกลุ่มคนร้าย
      
       จากการตรวจสอบพบว่าลูกระเบิด เอ็ม 79 ที่คนร้ายยิงใส่ จำนวน 2 ลูก ตกบริเวณด้านหลังของวัด ยังไม่ทราบความเสียหาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เข้าตรวจสอบ เนื่องจากเป็นจุดที่มืด เกรงว่าจะเป็นแผนลวงของคนร้ายที่ต้องการล่อเจ้าหน้าที่เข้าติดกับ และซุ่มโจมตีอีกครั้ง
      
       จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว จำนวน 10 นาย กำลังเฝ้าเวรยามร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บริเวณรอบๆ วัด ปรากกฎว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกยิง เอ็ม 79 จำนวน 2 นัดจนเกิดระเบิดขึ้น จากนั้นคนร้ายอีกชุดใช้อาวุธสงครามกราดยิงเข้าไปในวัดหลายสิบนัด จนเจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังพร้อมยิงตอบโต้คนร้ายเสียงดังสนั่น จนคนร้ายล่าถอยหลบหนีไป
      
       หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สกัดปิดเส้นทางที่คาดว่า คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี และเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณวัด สามารถจับภาพคนร้ายได้ จำนวน 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับมาจอดบนถนนห่างจากวัดประมาณ 200 เมตรก่อนจะใช้เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ยิงใส่จำนวน 2 นัดก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไป
      
       สำหรับวัดดังกล่าวเคยถูกลอบยิงมาแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เชื่อคนร้ายหวังสร้างสถานการณ์และฉวยโอกาสกรณีเหตุเจ้าหน้าที่ยิงชาวบ้าน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

สกัดจับลอบขนตัวนิ่มผ่านถนนสายนราฯ-ปัตตานีขายเพื่อนบ้าน

ปัตตานี - สกัดจับตัวนิ่ม 45 ตัว บรรจุในกระสอบ ที่ถนนสายนราธิวาส-ปัตตานี หลังรับแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนตัวนิ่มจึงเฝ้าติดตามรถต้องสงสัยบริเวณดัง กล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะถูกนำส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้านและมีมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
      
       
วันที่ 7 ม.ค.55  พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้นำตัว นายวิฑูรย์ สุขเพชร อายุ 26 ปี พร้อมของกลางตัวนิ่มที่ยังมีชีวิต จำนวน 45 ตัว อยู่ในกระสอบ มาแถลงข่าวและสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อทำการจับกุมกลุ่มลักลอบค้าตัวนิ่มที่ผิดกฎหมาย
      
       ในการจับกุมครั้งนี้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนตัวนิ่มมาจาก จ.นราธิวาส โดยผ่านเส้นทาง จ.ปัตตานี จึงได้ทำการเฝ้าติดตามรถต้องสงสัย บริเวณถนนสายนราธิวาส-ปัตตานี ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บจ 8283 นราธิวาส จึงได้ไล่สกัด พร้อมตรวจค้นพบตัวนิ่มจำนวน 45 ตัวบรรจุใส่ไว้ในกระสอบอยู่บนกระบะหลังรถ
      
       ตัวนิ่มที่ยึดมาได้ทั้ง 45 ตัว เชื่อว่าน่าจะมีการส่งต่อไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน และหากส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะมีมูลค่าประมาณเกือบ 2 ล้านบาท ส่วนนายวิฑูรย์ รับสารภาพว่า ถูกว่าจ้างให้ขนตัวนิ่มส่งให้พ่อค้าใน จ.ยะลา เป็นเงิน 1,000 บาทแต่ก็มาถูกจับตัวได้ดังกล่าว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตร.ไล่ล่าคนร้ายเกิดปะทะกันรถ จนท.พลิกคว่ำเจ็บ 2 นาย

ปัตตานี - เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ท่าทางมีพิรุธคนร้ายยิงใส่รถ เจ้าหน้าที่เป็นเหตุให้รถพลิกคว่ำ และเกิดการปะทะกันจนคนร้ายล่าถอยไป จากเหตุรถพลิกคว่ำทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย      
       
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ธ.ค.54 ขณะที่ รตอ.ภควัฒ ภัทรนันท์สกุล สว.สส.สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมพวกรวม 4 นายใช้รถยนต์สายตรวจ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ชพ 5198 กทม ขับลาดตระเวรติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่รับผิดชอบ บนถนนสายนาประดู่ - โคกโพธิ์
       
       ปรากฏว่าพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยรุ่น 2 รายขับรถจักรยานยนต์ มีท่าทางพิรุธจึงได้เรียกให้จอด แต่ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยได้เร่งเครื่องหลบหนี ร.ต.อ.ภควัฒ จึงได้ไล่ติดตามไปถึงบริเวณถนนภายในหมู่บ้านคลองช้าง ม.4 ต.นาเกตุ รถจักรยานยนต์ของผู้ต้องสงสัยเสียหลักล้มคนร้ายจึงชักอาวุธปืนยิงใส่ จนเจ้าหน้าที่ต้องหักหลบจนรถพลิกคว่ำตกข้างทาง คนร้ายยังเดินมายิงซ้ำหลายนัดก่อนที่จะวิ่งหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามเกิดการยิงปะทะกันขึ้น แต่คนร้ายอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นายจากรถคว่ำถูกนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ประกอบด้วย ส.ต.ต.จตุพล อัครวิบูลย์ และ ส.ต.ต.สมชัย กมขุนทศ
      
       หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พร้อมด้วยทหาร ตำรวจ และชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเสริมกำลังไล่ล่าคนร้ายและปิดล้อมบริเวณที่เกิด เหตุ พบเพียงรอยเลือดคาดเป็นของคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน กธย 83 ปัตตานี ซองปืน หมวกกันน๊อต รองเท้าเต๊ะ และใบขับขี่ 1 ในคนร้าย ทราบชื่อ นายอาลียะ แปเตาะ อายุ 21 ปี อยู่ ม.1 ต.ช้างไห้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
      
       เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจค้นบ้านของบุคคลดังกล่าวแล้ว แต่ไร้วี่แววคาดว่าจะหลบหนีไปแล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวร่วมออกมาเพื่อก่อเหตุสร้างสถานการณ์ แต่โชคดีที่เจอเจ้าหน้าที่เสียก่อนจึงเกิดการไล่ล่าปะทะกันขึ้น
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กรมทางหลวงขนแท่งคอนกรีตกั้นถนนปัตตานีถูกคลื่นซัดเพิ่ม

ปัตตานี - เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทที่ 12 จังหวัดสงขลา นำแท่งคอนกรีตกว่า 100 แท่ง วางเป็นแนวป้องกันคลื่นกัดเซาะถนน เพื่อรักษาเส้นทางหลักเชื่อมระหว่างหมู่บ้านของประชาชนที่ใช้สัญจรร่วม 5,000 ชีวิต               หลังจากที่เกิดคลื่นลมแรงในพื้นที่อ่าวปัตตานี เป็นเหตุให้น้ำทะเลได้เซาะพื้นดินใต้พื้นผิวถนน ทำให้ถนนเลียบชายฝั่งถูกน้ำทะเล ระหว่างบ้านแหลมตาชี-บ้านดาโต๊ะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งกินระยะทาง 15 กิโลเมตร ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหายเป็นระยะทางยาว โดยเฉพาะบ้านตาโล๊ะซามีแล ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
      
       วันนี้ (14 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทที่ 12 จังหวัดสงขลา เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเส้นทางดังกล่าวได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมรถเครนนำ แท่งคอนกรีตกว่า 100 แท่ง มาวางเป็นแนวป้องกันการเซาะของน้ำทะเลซึ่งยังคงมีคลื่นสูงอยู่กว่า 2 เมตร ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถนนที่ยังไม่ได้รับความเสียหาย ให้ยังสามารถใช้เป็นที่สัญจรของชาวบ้านได้
      
       เนื่องจากว่าถนนบางแห่งถูกน้ำกัดเซาะไปมากจนเหลือพื้นผิวถนนไม่ถึง 3 เมตร จากเดิมที่เคยกว้างถึง 8 เมตร ซึ่งถ้าเส้นทางดังกล่าวถูกน้ำกัดเซาะจนถนนขาดไม่สามารถสัญจรได้ จะทำให้ประชาชนใน 3 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.แหลมโพธิ์ กว่า 5,000 ชีวิตต้องลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นถนนสายหลักที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้าน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

เผยภาพ CCTV “RKK” พารุ่นน้องวางระเบิด 8 จุด ในปัตตานี

ปัตตานี - เผยภาพกล้องวงจรปิด 4 โจรใต้ RKK เก่าพารุ่นน้องฝึกก่อเหตุวางระเบิด 8 จุด เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้การฯ ขอหมายจับผู้ร่วมขบวนการและตั้งชุดไล่ล่าลากตัวเข้าคุก       
       
จากเหตุการณ์ที่กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดสถานที่ราชการต่างๆ รวม 8 จุดในพื้นที่ อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง อ.ยะรัง และ อ.ปะนาเระ รวม 5 อำเภอ เหตุเกิดตลอดช่วงกลางดึกวันที่ 17 พ.ย.54 ที่ผ่านมา
      
       ความคืบหน้าวันที่ 14 ธ.ค.54 หน่วยข่าวด้านความมั่นคงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่สามารถจับภาพกลุ่มแนวร่วม RKK ชุดเก่าที่พาสมุนแนวร่วมชุดใหม่ อายุประมาณ 20-35 ปี รวม 4 คน กำลังใช้เครื่องมือตัดโซ่กุญแจเข้าไปภายใน ซึ่ง 1 ในนั้นกอดลูกระเบิดที่ห่อด้วยถุงกระดาษเดินผ่านกล้องเห็นหน้าอย่างชัดเจน และจะเห็นได้ว่าทุกคนมีอาวุธปืนสั้นและปืนยาวมาด้วย
      
       โดยการก่อเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ระบุเป็นหนึ่งในยุทธวิธีก่อกวน และฝึกทดสอบสภาพจิตใจของแนวร่วมชุดใหม่ และจะเห็นได้ว่า กลุ่มคนร้ายทั้งหมดใช้การแต่งกายแบบเสื้อยืดคอกลมกางเกงขายาวและขาสั้นแบบ ธรรมดาทั่วไป โดยไม่มีการปิดปังใบหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงจุดสนใจจากเจ้าหน้าที่และรถที่ผ่านไปมา
      
       ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดสถานที่ราชการต่างๆ หลายแห่งสามารถบันทึกภาพการก่อเหตุได้อย่างชัดเจน จนชุดสืบสวนสอบสวนทราบว่าทั้งหมดเป็นใครบ้างแล้ว
      
       ล่าสุด ได้ควบคุมตัวผู้ร่วมขบวนการ ทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมวางแผน รู้เห็น หรือร่วมก่อเหตุวางระเบิดจากทั้ง 8 จุด แล้ว 4 คน จากทั้งหมดคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 คน และกำลังขยายผลจนตอนนี้เริ่มให้การซัดทอดอีกหลายราย
      
       โดยทางตำรวจได้ออกหมายจับเพิ่มเติมในขั้นต้น 6 คน และที่กำลังจะขอหมายต่อศาลอีกจำนวนหนึ่ง รอเพียงพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งได้สั่งจัดชุดออกไล่ล่าลากตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยิง ตร.ปัตตานีดับหน้าร้านโรตี ตั้งประเด็นป่วนใต้-ดับหัวคะแนนการเมือง

ปัตตานี - คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ ชักปืนยิงดาบตำรวจเสียชีวิตคาที่ ขณะที่กำลังลงไปซื้อโรตีให้ลูกรับประทานก่อนไปโรงเรียน ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้าอีกนัด เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนสาเหตุว่ามาจากเหตุความไม่สงบ หรือเกี่ยวพันทางการเมือง เนื่องจากผู้ตายเป็นหัวคะแนนใหญ่ให้กับ ส.ส.ปัตตานี ซึ่งเป็นญาติอีกด้วย      
       
วันที่ 7 ธ.ค.54 เมื่อเวลา 06.33 น.พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสาย 410 ปัตตานี-ยะลา บริเวณ ม.7 ต.ปูยุด อ.เมือง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย
      
       ภายหลังเกิดเหตุได้นำกำลังตำรวจ ทหาร ปกครอง หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมกันที่ เกิดเหตุเมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบมีรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีเขียว หมายเลขทะเบียน กรพ ปัตตานี 622 ของผู้ตายตั้งแสตนด์จอดนิ่ง พบมีรอยเลือดกองอยู่บริเวณรถคันดังกล่าว
      
       ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นญาติได้นำส่งโรงพยาบาลปัตตานีก่อนแล้วทราบชื่อ คือ ด.ต.ต่วนฮามิ นิแฮ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ต.ปูยุด ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 50 เมตร ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ต้นคอ และบริเวณลำตัว
      
       จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านพัก เพื่อรับซื้อโรตีให้ลูกทานก่อนไปโรงเรียน ซึ่งจะออกมาซื้ออยู่เป็นประจำทุกวัน ในระหว่างที่กำลังจะจอดรถรถหน้าร้านโรตี KR roti ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะตามประกบหลังแล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม้ กระหน่ำยิงจำนวน 3 นัด แล้วยิงขึ้นฟ้าอีก 1 นัด ก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไปตามถนนสาย 410 อย่างลอยนวล
      
       ส่วนประเด็นสาเหตุ เจ้าหน้าที่คาดว่าการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ที่ได้ก่อเหตุมาแล้วอย่าง ต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักทิ้งประเด็นอื่นเช่นเรื่องการเมืองระดับชาติ เนื่องจากผู้ตายเป็นญาติสนิทของ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี เขตเลือกตั้งที่1 และที่ผ่านผู้ตายได้เป็นหัวคะแนนใหญ่ให้กับ ส.ส.อีกด้วย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

เผยภาพวงจรปิดระเบิดตู้ ATM ปัตตานีมือวางเป็นหญิงในชุดฮิญาบ

ปัตตานี - เปิดภาพกล้องวงจรปิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปัตตานี เป็นหญิงสวมชุดฮิญาบ ทำทีกดเงินก่อนมีระเบิด 6 นาที เจ้าหน้าที่คาดเป็นแนวร่วมกลุ่มใหม่      
       
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ได้ทำการรวบรวมภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดทั้งของธนาคาร หน่วยงานต่างๆ ที่ติดตั้งไว้บริเวณจุดเกิดเหตุและตามถนน ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดของธนาคารที่ติดตั้งบริเวณตู้ ATM เห็นภาพคนร้ายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะมือวางระเบิด ที่สวมใส่ชุดสีดำของผู้หญิงมุสลิมโดยปิดหน้าปิดตาคลุมศีรษะ และจากบุคลิกท่าทางคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นผู้หญิง โดยทำทีมากดเงินจากตู้ ATM ในช่วงเวลา 06.39 น. เมื่อไม่มีคนเห็นจึงหยิบระเบิดที่ซุกไว้ในผ้าคลุมมาวางไว้ก่อนจะเดินหนีไป อย่างรวดเร็ว ผ่านไป 6 นาทีคนร้ายจึงกดระเบิดทันที
      
       ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมชุดใหม่ที่ได้รับการฝึกและการก่อเหตุ ครั้งนี้น่าจะเป็นการฝึกทดสอบจิตใจ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบภาพจากกล้องหลายๆ จุดก็พบเบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนทั้งของจังหวัดและ สภ.เมือง ออกแกะรอยอย่างใกล้ชิดแล้ว พร้อมกำชับให้วางกำลัง รปภ.เข้มทุกธนาคารทั้งจังหวัดปัตตานี
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ฆ่าโหดสาวทอมทิ้งบ่อขยะที่ปัตตานี คาดปมชู้สาว

ปัตตานี - ฆ่าโหดใช้ไม้หน้าสามตีใบหน้าและศีรษะสาวทอมเสียชีวิต แล้วนำศพมาทิ้งบ่อขยะ.เมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นเรื่องชู้สาว แต่ยังไม่ตัดประเด็นสิ่งผิดกฎหมาย
      
       
วันที่ 4 ธ.ค.54 เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต บริเวณทางเข้าบ่อทิ้งขยะ ม.9 ต.ตะลุโบ๊ะ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงไว้ผมสั้นคล้ายผู้ชาย นอนตะแคง มีบาดแผลถูกตีด้วยไม้หน้าสามเข้าที่ใบหน้า และศีรษะ เป็นแผลเหวอะหวะ สอบสวนทราบชื่อ น.ส.นูรีซัน เจ๊ะดือราแม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/9 ม.7 ต.ตะลุโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่เกิดเหตุยังพบไม้หน้าสามเปื้อนเลือดที่คนร้ายไว้ก่อเหตุจำนวน 1 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
      
       จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีเพื่อนของผู้ตายจำนวน 2 คนมารับตัวที่บ้าน จนถึงช่วงเช้า น.ส.นูรีซันก็ยังไม่กลับบ้าน ทำให้ญาติเป็นห่วงจึงออกตามหา จนมาพบว่า น.ส.นูรีซันกลายเป็นศพดังกล่าว ส่วนสาเหตุการตายยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าเป็นเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายมีลักษณะคล้ายทอมบอย อาจมีสาวมาติดพัน แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องผิดกฎหมาย
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คนร้ายยิงน้องชายเจ้าของปั๊มน้ำมันปัตตานีดับขณะออกกำลังกาย

ปัตตานี - คนร้ายใช้รถ จยย.ตามประกบยิงน้องเจ้าของปั๊มน้ำมันใหญ่ในปัตตานีเสียชีวิต ขณะวิ่งออกกำลังกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุว่าเรื่องส่วนตัวหรือการสร้างสถานการณ์ ความไม่มสงบ
              วันที่ 5 พ.ย.54 เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสายเจริญประดิษฐ์ ม.1 ต.รูสะมิแล นำกำลังไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือดริมถนนใกล้เสาไฟฟ้า ทราบชื่อ นายวิชิต รัตนไพบูลย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ถ.กลาพอ ต.จะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าลำตัว จำนวน 3 นัด
      
       จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นน้องชายเจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.รายใหญ่ใน จ.ปัตตานี ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า ปรากฏว่า ถูกคนร้าย 2 คนขับรถจักรยายนต์ประกบยิงหลายนัดจนเสียชีวิต
      
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายน่าจะรู้ว่า ผู้ตายจะออกมาวิ่งในตอนเช้าทุกวัน จึงฉวยโอกาสก่อเหตุ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นเรื่องธุรกิจส่วนตัวหรือสร้าง สถานการณ์
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ตลาดปัตตานีผักกว่า 10 รายการขาดตลาด บางอย่างปรับราคากว่า 100 บาท

ปัตตานี - ผักร่วม 10 ชนิด ขาดตลาดแล้ว และบางชนิดปรับขึ้นราคากว่า 100 บาท หลังพื้นที่การเกษตรในหลายภูมิภาคของไทยถูกน้ำท่วมเสียหายยาว              หลังพื้นที่ทำการเกษตรในหลายภูมิภาคของประเทศไทย ได้ถูกน้ำท่วมจนเสียหายยาวนานนับเดือน อีกทั้งการคมนาคมขนส่งก็ได้รับความเสียหาย ส่งผลทำให้ผักร่วม 10 ชนิดที่มาจากพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอีสาน ส่งขายในพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้ขาดตลาดและไม่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดนัดทั่วไป ตลอดจนในห้างฯ เช่น ผักกาดขาว ผักกาดหอม บร๊อกโคลี มะเขือเปราะ พืชผักตระกูลถั่ว โหระพา กะเพรา ส่วนร้านขายอาหารก็ต้องงดปรุงรายการอาหารชนิดที่ผักขาดตามไปด้วยเช่นกัน
      
       ขณะที่ผักอีกหลายชนิดก็มีแนวโน้มเริ่มที่จะขาดตลาด และมีราคาแพงขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้บรรดาร้านขายผักขายได้น้อยลง รวมทั้งจากการขนส่งที่ใช้เวลาเดินทางล่าช้ากว่าปกติ 3 - 4 วัน จึงทำให้ผักส่วนใหญ่ช้ำและขาดความสด ส่งผลทำให้ไม่สามารถเก็บไว้ขายได้นานหลายวัน
      
       นางภาวิณี ฆังคัสโร แม่ค้าขายผัก กล่าวว่า ขณะนี้ผักเริ่มขายได้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากราคาผักปรับแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนบรรดาแม่ค้าเองต้องปรับลดจำนวนการสั่งซื้อมาขายน้อยลงเช่นกัน เพื่อป้องกันการขาดทุน จากผักที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นานเพราะปัญหาการขนส่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมและการขนส่งต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานกว่า ปกติหลายวัน
      
       ส่วนราคาผักตามท้องตลาดตรวจสอบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผักชี ราคา กก.ละ 80 บาท ปรับเป็น กก.ละ 180-200 บาท ต้นหอม ราคา กก.ละ 80 บาท ปรับเป็น กก.ละ 100 - 110 บาท
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ค้นบ้านต้องสงสัยป่วนใต้พบระเบิด-กระสุนเอ็ม 16 จำนวนมากที่ปัตตานี

ปัตตานี - หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ ม.6 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก พบระเบิดชนิดขว้าง เอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก และกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 12 นัด จึงควบคุมตัวเจ้าบ้านไปสอบสวนต่อที่ค่ายอิงยุทธบริหาร จ.ปัตตานี      
       
วันที่ 2 พ.ย.54 เมื่อเวลา 09.00 น. พ.อ.คมกฤษ รัตนฉายา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 พ.ท.ฐิติพงษ์ อินวะษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 พ.ต.อ.จีรวัตน์ อุดมสุด รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังร่วม 50 นายเข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านของนายประพันธ์ แหแหลม อายุ 37 ปี ซึ่งไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ ม.6 บ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมและมีการประชุมเพื่อวางแผนก่อเหตุร้ายใน พื้นที่ จ.ปัตตานี
      
       ภายหลังการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบ ระเบิดชนิดขว้าง เอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก และกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 12 นัดถูกห่อด้วยผ้าสีดำ พร้อมได้ควบคุมตัว นายประพันธ์ ไปสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าของกลางทั้งหมดไม่ใช่ของตน แต่รับว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีเพื่อนจำนวน 10 คนมาหาตนที่บ้าน โดย 1 ในนั้นมี นายมะ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ ส่วนระเบิดน่าจะเป็นของ นายมะ มาฝากไว้
      
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ค่ายอิงยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์