วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

จู่โจมค้นเรือนจำตรัง พบสิ่งผิดกฎหมายเพียบ

ตรัง - ตร.ตรัง สนธิกำลังบุกจู่โจมเข้าค้นเรือนจำ จังหวัดตรัง พบสารคล้ายยาไอซ์ บุหรี่ ผงสักร่างกาย มือถือ ที่ชาร์จ และเงินสด ในแดน 1 ผู้ต้องขังชายคดียาเสพติด ผบ.เรือนจำสั่งเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น              วันที่ 4 ต.ค.54 เมื่อเวลา 06.30 น.นายกฤษณ์ วงศ์เวช ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.ตรัง ทั้ง 16 สภ. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตรัง กว่า 180 นาย เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำ จ.ตรัง เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งของต้องห้าม โดยได้วางแผนกระจายกำลังแยกเข้าค้นเรือนนอน ทั้งผู้ต้องขังชายและหญิง ทุกตารางนิ้วภายในเรือนจำ
      
       ทั้งนี้ จากการตรวจค้นภายในเรือนนอนผู้ต้องขังชายแดน 1 คดียาเสพติด พบสารต้องสงสัยคล้ายยาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด จำนวน 1 ถุง และยังพบบุหรี่ โพยทายผลพนันฟุตบอล โทรศัพท์มือถือโนเกีย จำนวน 2 เครื่อง พร้อมที่ชาร์ตแบตเตอร์รี่ที่มีการดัดแปลงหัวปลั๊กเสียบต่อลวดเพื่อเสียบเข้า กับทีวี จำนวน 3 อัน และเงินสด จำนวน 50 บาท ซุกซ่อนอยู่ในแก้วน้ำวางครอบถังน้ำภายในห้องน้ำ
      
       ส่วนที่ล็อกเกอร์ผู้ต้องขังชายแดน 1 จากการตรวจค้น พบบุหรี่ กว่า 100 ซอง ผงสำหรับสักตามร่างกาย จำนวน 1 ซอง ทางเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่แดนนักโทษหญิง ก็มีการเข้าตรวจค้นด้วยเช่นกัน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
      
       นายกฤษณ์ วงศ์เวช ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับโทรศัพท์มือถือและที่ชาร์ตแบตเตอร์รี่ ซึ่งเป็นสิ่งของต้องห้ามที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้นั้น ส่วนใหญ่จะมีญาติของผู้ต้องขังที่อยู่ข้างนอกใช้วิธีขว้างปาจากทางด้านหลัง กำแพงเรือนจำ ซึ่งอยู่ติดริมถนนเข้ามาภายใน ทั้งนี้ จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้หารือกับ พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง โดยรับปากว่า จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยลาดตระเวนในจุดเสี่ยงรอบเรือนจำด้วย
      
       อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเรือนจำได้มีมาตรการป้องปราม โดยกำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวนก่อนปล่อยผู้ต้องขังเข้าเรือน นอน และตรวจตราทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจากกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีไม่เพียงพอ ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง และอาจทำให้มีสิ่งของผิดกฎหมายเล็ดลอดตกเข้ามาอยู่ในมือผู้ต้องขังได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อเอาผิดผู้ ต้องขัง ส่วนของกลางได้ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
      
       และสำหรับผงสักร่างกายนั้น ผู้ต้องขังอาจจะได้มาโดยการขโมยผงหมึกของเจ้าหน้าที่ หรืออาจลักลอบนำเข้ามาจากญาติ ซึ่งการสักร่างกายของผู้ต้องขังยอมรับว่า เป็นปัญหาหลักของเรือนจำทุกแห่ง โดยตามกฎ หากเรือนจำรับผู้ต้องขังเข้ามาในเรือนจำ จะมีการทำประวัติตำหนิรูปพรรณตามร่างกาย หากตรวจพบภายหลังว่า มีการสักเพิ่ม ก็จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนลงโทษตามระเบียบต่อไป ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องขังชายนิยมสัก บางส่วนอาจจะมีความเชื่อผิดๆ หรืออาจถูกเพื่อนด้วยกันยุยง หรือบางคนคิดว่าอาจจะไม่ได้พ้นโทษ
      
       ส่วนบุหรี่นั้น ตามระเบียบจะมีได้คนละไม่เกิน 5 ซอง แต่ที่ค้นพบเจอจำนวนมากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะคืนให้กับญาติไป ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่า การที่มีบุหรี่จำนวนมากเล็ดลอดเข้ามาในเรือนจำได้ เจ้าหน้าที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจ เพราะที่ผ่านมาทางตนพยายามสร้างจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่มีความรักองค์กรและ อย่าพยายามทำให้เสื่อมเสีย แต่หากพบก็จะมีความผิดไล่ออกจากราชการสถานเดียว
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป