ยะลา - ตร.เบตง รวบแก๊งวัยรุ่นตระเวนปล้น พฤติกรรมของคนร้ายนั้นเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง แต่อาจจะไม่มีผู้เสียหายพากันมาแจ้งความ เพราะเกิดความอับอายและกลัวว่าคนร้ายจะมาทำร้ายหรือฆ่าทิ้ง ซึ่งจะทำการสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
วันที่ 1 ต.ค.54 พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เบตง พร้อมด้วย พ.ต.ท.โสภณ สายสุรีย์ รอง ผกก.(ป) พร้อมกำลังได้ร่วมกันนำตัวนายตะวัน อีตำ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/5 ม.4 ต.ยะรม อ.เบตงจ.ยะลา นายอาคม สมพลภักดี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.2 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และนายมูฮัมหมัด รอเซะอายุ 20 ปี อยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ถ.อรรถเวที ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ พร้อมของกลางรถ จยย.จำนวน 2 คัน อาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง เงินสด 150,000 บาท มาแถลงข่าว ส่วนผู้ต้องหาอีกคนทราบชื่อเล่นชื่อ เลาะ ซึ่งหลบหนีได้ เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับแล้ว
พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เบตง กล่าวเปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 04.00 น. นายวิชิต หงส์วิมล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่4/4 ถ.ประชาธิปัตย์ อ.เบตง จ.ยะลา ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง ว่าได้ถูกคนร้ายเป็นชายจำนวน 3 คนใช้อาวุธปืน มีด จี้บังคับขณะที่เหยื่อนอนอยู่ชั้น 2 ของบ้าน จากนั้น 1 ในแก๊งคนร้ายได้ชักมีดพยายามจะฟันนายวิชิตเพื่อพาไปเปิดตู้เซฟ แต่นายวิชิตพยายามถ่วงเวลา จนคนร้ายเผลอจึงกระโดดจากชั้น 2 ลงมาทำให้เกิดแผลฉีกขาดบริเวณข้อขาด้านซ้าย จากนั้นจึงได้วิ่งหนีไปหลบในป่าละเมาะข้างบ้านเนื่องจากกลัวคนร้ายที่มี อาวุธปืนและมีดจะฆ่าปิดปากเพราะเห็นหน้า จากนั้นคนร้ายได้นำรถ จยย. จำนวน 2 คันมาขนทรัพย์สินภายในบ้าน
หลังคนร้ายออกไปจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือว่าโดนปล้น จากนั้น จนท.ตำรวจชุดจับกุมได้นำภาพผู้ต้องหามาให้นายวิชิตดูปรากฏว่า เป็นคนร้ายที่ตระเวนลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ในเขตเทศบาลเมืองเบตงมานานแล้ว ซึ่งทาง จนท.ชุดจับกุมจึงนำกำลังไปยังบ้านของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนและได้นำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าได้ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเหยื่อที่มีฐานะในเขตเทศบาล เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีอาชีพกรีดยางพารา ซึ่งในเวลาดังกล่าวจึงเป็นโอกาสที่เข้าไปลักทรัพย์ได้ง่าย แต่กรณีดังกล่าวคนร้ายคิดว่าภายในบ้านไม่มีคนอยู่จึงได้ปีนทางหลังบ้านเข้า ไปจนมาพบนายวิชิต ผู้เสียหาย จึงได้ชักมีดความยาว 2 ฟุตขึ้นมาขู่ให้เปิดตู้เซฟ แต่นายวิชิตได้กระโดดหนีออกทางระเบียงจากชั้น 2 และได้วิ่งหนีไปผู้ต้องหาทั้ง 3 จึงได้นำรถ จยย.ที่มาจอดรอขนทรัพย์สินแล้วนำไปซ่อนบริเวณทางขึ้นเขาสัญญาณไมโครเวฟ จนท.จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไปชี้ที่จุดที่ซ่อน หลังจากนั้นจึงนำตัวมา สภ.เบตงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันที่ 1 ต.ค.54 พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เบตง พร้อมด้วย พ.ต.ท.โสภณ สายสุรีย์ รอง ผกก.(ป) พร้อมกำลังได้ร่วมกันนำตัวนายตะวัน อีตำ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/5 ม.4 ต.ยะรม อ.เบตงจ.ยะลา นายอาคม สมพลภักดี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.2 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และนายมูฮัมหมัด รอเซะอายุ 20 ปี อยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ถ.อรรถเวที ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ พร้อมของกลางรถ จยย.จำนวน 2 คัน อาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง เงินสด 150,000 บาท มาแถลงข่าว ส่วนผู้ต้องหาอีกคนทราบชื่อเล่นชื่อ เลาะ ซึ่งหลบหนีได้ เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับแล้ว
พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เบตง กล่าวเปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 04.00 น. นายวิชิต หงส์วิมล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่4/4 ถ.ประชาธิปัตย์ อ.เบตง จ.ยะลา ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง ว่าได้ถูกคนร้ายเป็นชายจำนวน 3 คนใช้อาวุธปืน มีด จี้บังคับขณะที่เหยื่อนอนอยู่ชั้น 2 ของบ้าน จากนั้น 1 ในแก๊งคนร้ายได้ชักมีดพยายามจะฟันนายวิชิตเพื่อพาไปเปิดตู้เซฟ แต่นายวิชิตพยายามถ่วงเวลา จนคนร้ายเผลอจึงกระโดดจากชั้น 2 ลงมาทำให้เกิดแผลฉีกขาดบริเวณข้อขาด้านซ้าย จากนั้นจึงได้วิ่งหนีไปหลบในป่าละเมาะข้างบ้านเนื่องจากกลัวคนร้ายที่มี อาวุธปืนและมีดจะฆ่าปิดปากเพราะเห็นหน้า จากนั้นคนร้ายได้นำรถ จยย. จำนวน 2 คันมาขนทรัพย์สินภายในบ้าน
หลังคนร้ายออกไปจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือว่าโดนปล้น จากนั้น จนท.ตำรวจชุดจับกุมได้นำภาพผู้ต้องหามาให้นายวิชิตดูปรากฏว่า เป็นคนร้ายที่ตระเวนลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ในเขตเทศบาลเมืองเบตงมานานแล้ว ซึ่งทาง จนท.ชุดจับกุมจึงนำกำลังไปยังบ้านของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนและได้นำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าได้ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเหยื่อที่มีฐานะในเขตเทศบาล เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีอาชีพกรีดยางพารา ซึ่งในเวลาดังกล่าวจึงเป็นโอกาสที่เข้าไปลักทรัพย์ได้ง่าย แต่กรณีดังกล่าวคนร้ายคิดว่าภายในบ้านไม่มีคนอยู่จึงได้ปีนทางหลังบ้านเข้า ไปจนมาพบนายวิชิต ผู้เสียหาย จึงได้ชักมีดความยาว 2 ฟุตขึ้นมาขู่ให้เปิดตู้เซฟ แต่นายวิชิตได้กระโดดหนีออกทางระเบียงจากชั้น 2 และได้วิ่งหนีไปผู้ต้องหาทั้ง 3 จึงได้นำรถ จยย.ที่มาจอดรอขนทรัพย์สินแล้วนำไปซ่อนบริเวณทางขึ้นเขาสัญญาณไมโครเวฟ จนท.จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไปชี้ที่จุดที่ซ่อน หลังจากนั้นจึงนำตัวมา สภ.เบตงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป