วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

คนร้ายควงอาก้ายิงถล่มบ้านเจ้าของเต็นท์รถใกล้บ้าน ส.ส.ปชป.




พัทลุง - คนร้ายควงอาก้ายิงถล่มบ้านเจ้าของร้านรถมือสองใกล้กับบ้าน ส.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร พรรคประชาธิปัตย์ โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ ตร.คาดเป็นการยิงข่มขู่เนื่องจากขัดแย้งด้านธุรกิจ
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 11 ม.ค.56  ร.ต.ต.สมหมาย ชูชื่น ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งเหตุคนร้าย จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบ้านของ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ซึ่งเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พัทลุง โดยขณะที่ น.ส.สุพัชรี มาประสบเหตุคนร้ายได้เผ่นหนีไป
      
       หลังจากรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง โดยในที่เกิดเหตุบนถนนทางเข้าบ้าน ส.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ห่างจากบ้านเพียง 80 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืนสงครามชนิดอาก้า ตกอยู่ 18 ปลอก จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
      
       ส่วนบ้านที่โดนคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม เป็นบ้านของนายชัยสิทธิ ชนะสิทธิ์ อายุ 58 ปี เลขที่ 132 ม.9 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง ตัวบ้านมีรอยถูกยิงพรุน กระจกหน้าต่างแตกกระจาย และรถยนต์เก๋งถูกรอยกระสุนได้รับความเสียหาย 2 คัน ซึ่งขณะเกิดเหตุ นายชัยสิทธิพร้อมครอบครัวได้อาศัยอยู่ในบ้าน เมื่อได้ยินเสียงปืนทุกคนพากันหมอบกับพื้น โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
      
       จากการสอบถาม น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.ประชาธิปัตย์ พัทลุง ที่มาประสบเหตุ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนพร้อมลูกน้องได้ขับรถยนต์กลับมาจากร่วมงานวันเด็กเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพัก มาถึงที่เกิดเหตุก่อนถึงบ้าน 80 เมตร เห็นคนร้าย 2 คน กำลังใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเห็นรถตนขับเข้ามาใกล้คนร้ายก็วิ่งขึ้นรถจักรยายนต์ฝ่าความมืดหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
      
       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า คนร้ายที่ลงมือยิงไม่ได้หมายจะเอาชีวิต เป็นการยิงข่มขู่เพื่อให้เกิดความกลัวมากกว่า ซึ่งสาเหตุในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งในธุรกิจรถมือสองที่เจ้าของบ้านที่เสียหายทำอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเรียกนายชัยสิทธิ ชนะสิทธิ์ เจ้าของบ้านมาสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนออกติดตามคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป