วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

หน่วยงานรัฐเข้าช่วยเหลือสองตายายไร้ญาติวัย 85 ปีแล้ว




ชุมพร - หน่วยงานรัฐเข้าช่วยเหลือสองตายายไร้ญาติวัย 85 ปี นอนรอความตายอยู่ในกระต๊อบริมคลอง ส่งแพทย์ตรวจสุขภาพ จัดหาที่อยู่ใหม่ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี
      
       
จากกรณีที่ น.ส.สุทธิดา หน่อแก้ว อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 449/4 หมู่ 3 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร พนักงานของบริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) แจ้งผู้สื่อข่าวว่าพบ นายเจือ และนางพะยอม กองเจ สองตายายซึ่งเป็นสามีภรรยากัน อายุประมาณ 85 ปี ทั้งคู่เดินไม่ได้เพราะความแก่ชรา และไม่มีญาติดูแล อาศัยอยู่ในกระต๊อบร้างหลบแดดฝน อยู่บริเวณริมคลองอีเล็ค หมู่ 2 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ห่างจากถนนสายชุมพร- ปากน้ำชุมพร ประมาณ 10 เมตร วอนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
      
       
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 16 ม.ค.56  น.ส.วัลภา แก้วสวี นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร น.ส.บุญธรรม แพทย์พงษ์ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลตำบลท่ายาง พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ไปที่กระต๊อบหลังดังกล่าว ที่ นายเจือ กองเจ กับ นางพะยอม กองเจ สองตายายอาศัยอยู่ ซึ่งทั้งคู่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ แต่ยังนั่ง และขยับตัวอยู่ภายในกระต๊อบกว้างยาวประมาณ 2 เมตรได้ โดยพบนายเจือกำลังใช้ฟืนก่อไฟต้มน้ำอยู่บนพื้นภายในกระต๊อบ เพื่อจะเอาน้ำที่เดือดใส่ถุงร้อนไว้ประคบท้องให้แก่นางเจือภรรยาที่นอนป่วยด้วยโรคชราและอาการเจ็บท้องอยู่ใกล้ๆ กัน
      
       
ภายในกระต๊อบมีสิ่งของเครื่องใช้เสื้อผ้าวางระเกะระกะคล้ายกองขยะ ส่งกลิ่นเหม็นโชยคลุ้งทั่วบริเวณ และมีมด แมลงวันไต่ตอมอยู่ทั่ว โดยภาพของสองตายายเห็นแล้วเป็นที่หดหู่ใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากกระต๊อบหลังดังกล่าวมีสภาพคับแคบเป็นทั้งที่นอนที่กินที่ขับถ่าย จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงบอกว่า ทั้งสองตายายอาศัยอยู่ในกระต๊อบข้างคลองอีเล็คมานานกว่า 20 ปีแล้ว จนปัจจุบันทั้งคู่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ เนื่องจากความแก่ชรา มีเพียงชาวบ้านที่ผ่านมาพบเห็นแล้วสงสารคอยแวะเวียนมาดูแลเอาอาหารมาให้กินไปวันๆ เท่านั้น
             น.ส.วัลภา แก้วสวี นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร และ น.ส.บุญธรรม แพทย์พงษ์ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลตำบลท่ายาง ได้พยายามทักทายพูดคุยกับ นายเจือ นางพะยอม สองตายาย แต่ทั้งสองไม่ค่อยได้ยินและพูดจาสั่นเครือ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำสองตายายไปตรวจสุขภาพ และรักษาตัวที่โรงพยาบาลปากน้ำชุมพร ซึ่งอยู่ห่างจากกระต๊อบที่สองตายายพักอาศัยประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัว นายเจือ กับ นางพะยอม ไปถึงโรงพยาบาลปากน้ำชุมพร แพทย์ได้นำตัวเข้าห้องตรวจสุขภาพ โดยทั้งสองตายายมีท่าทีตื่นกลัวจนเนื้อตัวสั่นหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา
      
       
นางสุนิสา น้ำใจสุข พยาบาลเวชปฎิบัติ โรงพยาบาลปากน้ำชุมพร กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสุขภาพทั่วไปก่อน เนื่องจากทั้งสองตายยายเป็นผู้สูงอายุไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ จึงต้องให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลไปก่อนเพื่อฟื้นฟูตรวจเช็กสุขภาพ หลังจากนั้นก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับตัวไปได้
                ด้าน น.ส.วัลภา แก้วสวี นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น นายเจือกับนางพะยอม สองตายายไม่มีหลักฐานประจำตัวใดๆ ทั้งสิ้น อายุประมาณ 80-85 ปี จากการสอบถามข้อมูลทั่วไปจากชาวบ้านในพื้นที่พอทราบว่า นายเจือเป็นคน จ.เพชรบุรี ได้อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุประมาณ 10 กว่าปี โดยยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป และทำประมง จนได้เจอกับนางพะยอม และอยู่กินด้วยกันจนถึงปัจจุบัน ทั้งคู่ไม่มีบุตร และไม่มีญาติ แล้วพากันมาอาศัยอยู่ในกระต๊อบริมคลองอีเล็คดังกล่าวจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
      
       
น.ส.วัลภา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ประสานงานกับ น.ส.เอี่ยม มากอำไพ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง เจ้าของพื้นที่แล้ว โดยได้เช่าบ้านพักอยู่ใกล้กับที่ทำการเทศบาลตำบลท่ายาง เพื่อไว้ให้นายเจือและนางพะยอมได้อยู่อาศัยหลังจากออกจากโรงพยาบาล โดยมี อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ หรือ อสผ. และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล คอยไปดูแลสุขภาพ และจัดอาหารให้วันละ 3 มื้อ พร้อมดำเนินการช่วยเหลือเรื่องสวัสดิการเบื้องต้นด้วย
      
       “
นอกจากนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อคอยติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือแก่สองตายาย โดยมี น.ส.เอี่ยม มากอำไพ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง เป็นประธานกรรมการ พร้อมเปิดบัญชีธนาคารชื่อ เงินช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส” (นายเจือ กองเจ นางพะยอม กองเจ) ธนาคารกรุงไทย สาขาชุมพร หมายเลขบัญชี 803-0-52399-8 ซึ่งผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือสองตายายสามารถบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารดังกล่าวได้น.ส.วัลภา แก้วสวี นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร กล่าว
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป