ตรัง - เทศบาลนครตรัง ได้ฤกษ์เปิดประชุมสภาครั้งแรก เพื่อเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการสภา แต่มีความวุ่นวาย ทั้งบริหารและฝ่ายค้าน จนต้องนำเรื่องเสนอให้ผู้ว่าฯ ดำเนินการ
วันที่ 21 พ.ค.55 ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลนครตรัง นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดประชุมสภาเทศบาลนครตรังครั้งแรก ประจำปี 2555 โดยมี นายอภิชิต วิโนทัย หรือ “ทนายแจ๊ค” นายกเทศมนตรีนครตรัง คนใหม่ ซึ่งสามารถโค่น นายชาลี กางอิ่ม หรือ “โกชาลี” อดีตนายกเทศมนตรีนครตรัง 4 สมัย ได้อย่างถล่มทลาย และนำลูกทีมเข้าสู่สภาได้ถึง 14 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 24 ที่นั่ง นอกจากนั้น ยังมีสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง รวมจำนวน 24 คน เข้าประชุมดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ประชุมได้เลือกประธานสภา รองประธานสภา และเลขานุการสภา ทั้งนี้ มีการเสนอชื่อ นายโกศล เสาวภาคย์ อดีตเทศมนตรีเมืองตรัง ลูกทีม นายชาลี หรือ “โกชาลี” ขึ้นเป็นประธานสภา แต่ นายโกศล ได้สละสิทธิ์ จึงมีการเสนอชื่อ นายประสาน อ่อนน้อม สมาชิกลูกทีม นายอภิชิต หรือ “ทนายแจ๊ค” อดีตผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เทศบาลนครตรัง ขึ้นเป็นประธานสภาเทศบาลนครตรัง ด้วยคะแนน 14 ต่อ 8 และงดออกเสียง 1 คน
จากนั้น ก็ได้มีการเลือกรองประธานสภา โดยมีการเสนอชื่อ นายธเนศร์ คงดำ ลูกทีม นายอภิชิต หรือ “ทนายแจ๊ค” กับ นายประเวช ไกรเทพ ลูกทีม นายชาลี หรือ “โกชาลี” และให้สมาชิกลงคะแนนโดยวิธีลับ แต่ปรากฏว่า ระหว่างขานนับคะแนนนั้น มีสมาชิกได้เขียนชื่อ นายธเนศร์ ลงในกระดาษที่ให้ลงคะแนนเลือกประธานสภา ทำให้ นายกัมปนาถ อินทองมาก และ นายพิชญะ ศิริศุภนนท์ สมาชิกทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายค้าน ซึ่งทำหน้าที่นับคะแนน ได้ท้วงติงให้เป็นบัตรเสีย จึงทำให้เกิดความวุ่นวายกันขึ้นนานกว่า 10 นาที
ต่อมา นายประสาน ประธานสภา ได้วินิจฉัยว่า บัตรใบดังกล่าวสามารถใช้สิทธิ์ได้ ทำให้ นายสุเทพ หม่อมวงศ์ สมาชิกฝ่ายค้าน ลุกขึ้นท้วงติงว่า เนื่องจากการเลือกประธานสภาได้เสร็จสิ้นแล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างการเลือกรองประธานสภา ฉะนั้น การจะนำข้อบกพร่องมาอนุโลมไม่ได้ เพราะกฎหมายระบุชัดเจนไว้แล้วว่า การลงคะแนนต้องระบุชื่อ นามสกุล ให้ชัดเจน และบัตรใบดังกล่าวควรจะเป็นโมฆะ ดังนั้น ในกรณีที่มีข้อสงสัยผู้ที่ทำหน้าที่ ประธานสภาจะรวบรัดคำวินิจฉัยไม่ได้ ต้องนำปัญหาที่เกิดขึ้นแจ้งต่อที่ประชุมสภา เพื่อให้สมาชิกร่วมกันวินิจฉัย
ทั้งนี้ นายประสาน ประธานสภา ได้รับข้อเสนอของสมาชิก และรับปากว่า จะนำปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นเสนอให้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังรับทราบ และจะรายงานให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรับทราบต่อไป แล้วได้สั่งให้มีการนับคะแนนต่อ แต่ก็ยังพบบัตรในลักษณะเดียวกันอีก 1 ใบ ซึ่ง นายประสาน ก็สั่งให้ดำเนินการตามบัตรใบแรก
ท้ายสุดผลปรากฏว่า นายธเนศร์ ได้รับการเลือกให้เป็นรองประธานสภาเทศบาลนครตรัง ด้วยคะแนน 15 ต่อ 8 และงดออกเสียง 1 คน จากนั้น ได้มีการเสนอชื่อ นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาล เป็นเลขานุการสภาเทศบาลนครตรัง ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากไม่มีผู้เสนอชื่อแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อการประชุมสภามาถึงวาระที่ 6 ซึ่งเป็นเรื่องอื่นๆ ก็ได้เกิดความวุ่นวายอีกรอบ เมื่อ นายประสาน ได้ถือโอกาสเชิญ นายอภิชิต นายกเทศมนตรี มาพบปะพูดคุยกับสมาชิก พนักงานเทศบาล ข้าราชการ และสื่อมวลชน แต่กลับถูกฝ่ายค้านท้วงติงว่า ไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้มีการระบุไว้ในวาระการประชุม และการที่นายกเทศมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ในสภาได้ ต้องมีการแถลงนโยบายก่อน ทำให้นายอภิชิต ซึ่งเพิ่งเดินกลับจากนอกห้องประชุมเข้ามารู้สึกงุนงง ก่อนลุกขึ้นพูดสั้นๆ ว่า เพื่อความสบายใจของทุกคน ตนของดการพบปะเพื่อนสมาชิกออกไปก่อน จากนั้น นายอภิชิต ได้เดินออกไปจากห้องประชุมทันที ก่อนที่ประธานสภา จะปิดประชุมสภาในเวลาต่อมา
วันที่ 21 พ.ค.55 ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลนครตรัง นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดประชุมสภาเทศบาลนครตรังครั้งแรก ประจำปี 2555 โดยมี นายอภิชิต วิโนทัย หรือ “ทนายแจ๊ค” นายกเทศมนตรีนครตรัง คนใหม่ ซึ่งสามารถโค่น นายชาลี กางอิ่ม หรือ “โกชาลี” อดีตนายกเทศมนตรีนครตรัง 4 สมัย ได้อย่างถล่มทลาย และนำลูกทีมเข้าสู่สภาได้ถึง 14 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 24 ที่นั่ง นอกจากนั้น ยังมีสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง รวมจำนวน 24 คน เข้าประชุมดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ประชุมได้เลือกประธานสภา รองประธานสภา และเลขานุการสภา ทั้งนี้ มีการเสนอชื่อ นายโกศล เสาวภาคย์ อดีตเทศมนตรีเมืองตรัง ลูกทีม นายชาลี หรือ “โกชาลี” ขึ้นเป็นประธานสภา แต่ นายโกศล ได้สละสิทธิ์ จึงมีการเสนอชื่อ นายประสาน อ่อนน้อม สมาชิกลูกทีม นายอภิชิต หรือ “ทนายแจ๊ค” อดีตผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เทศบาลนครตรัง ขึ้นเป็นประธานสภาเทศบาลนครตรัง ด้วยคะแนน 14 ต่อ 8 และงดออกเสียง 1 คน
จากนั้น ก็ได้มีการเลือกรองประธานสภา โดยมีการเสนอชื่อ นายธเนศร์ คงดำ ลูกทีม นายอภิชิต หรือ “ทนายแจ๊ค” กับ นายประเวช ไกรเทพ ลูกทีม นายชาลี หรือ “โกชาลี” และให้สมาชิกลงคะแนนโดยวิธีลับ แต่ปรากฏว่า ระหว่างขานนับคะแนนนั้น มีสมาชิกได้เขียนชื่อ นายธเนศร์ ลงในกระดาษที่ให้ลงคะแนนเลือกประธานสภา ทำให้ นายกัมปนาถ อินทองมาก และ นายพิชญะ ศิริศุภนนท์ สมาชิกทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายค้าน ซึ่งทำหน้าที่นับคะแนน ได้ท้วงติงให้เป็นบัตรเสีย จึงทำให้เกิดความวุ่นวายกันขึ้นนานกว่า 10 นาที
ต่อมา นายประสาน ประธานสภา ได้วินิจฉัยว่า บัตรใบดังกล่าวสามารถใช้สิทธิ์ได้ ทำให้ นายสุเทพ หม่อมวงศ์ สมาชิกฝ่ายค้าน ลุกขึ้นท้วงติงว่า เนื่องจากการเลือกประธานสภาได้เสร็จสิ้นแล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างการเลือกรองประธานสภา ฉะนั้น การจะนำข้อบกพร่องมาอนุโลมไม่ได้ เพราะกฎหมายระบุชัดเจนไว้แล้วว่า การลงคะแนนต้องระบุชื่อ นามสกุล ให้ชัดเจน และบัตรใบดังกล่าวควรจะเป็นโมฆะ ดังนั้น ในกรณีที่มีข้อสงสัยผู้ที่ทำหน้าที่ ประธานสภาจะรวบรัดคำวินิจฉัยไม่ได้ ต้องนำปัญหาที่เกิดขึ้นแจ้งต่อที่ประชุมสภา เพื่อให้สมาชิกร่วมกันวินิจฉัย
ทั้งนี้ นายประสาน ประธานสภา ได้รับข้อเสนอของสมาชิก และรับปากว่า จะนำปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นเสนอให้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังรับทราบ และจะรายงานให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรับทราบต่อไป แล้วได้สั่งให้มีการนับคะแนนต่อ แต่ก็ยังพบบัตรในลักษณะเดียวกันอีก 1 ใบ ซึ่ง นายประสาน ก็สั่งให้ดำเนินการตามบัตรใบแรก
ท้ายสุดผลปรากฏว่า นายธเนศร์ ได้รับการเลือกให้เป็นรองประธานสภาเทศบาลนครตรัง ด้วยคะแนน 15 ต่อ 8 และงดออกเสียง 1 คน จากนั้น ได้มีการเสนอชื่อ นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาล เป็นเลขานุการสภาเทศบาลนครตรัง ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากไม่มีผู้เสนอชื่อแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อการประชุมสภามาถึงวาระที่ 6 ซึ่งเป็นเรื่องอื่นๆ ก็ได้เกิดความวุ่นวายอีกรอบ เมื่อ นายประสาน ได้ถือโอกาสเชิญ นายอภิชิต นายกเทศมนตรี มาพบปะพูดคุยกับสมาชิก พนักงานเทศบาล ข้าราชการ และสื่อมวลชน แต่กลับถูกฝ่ายค้านท้วงติงว่า ไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้มีการระบุไว้ในวาระการประชุม และการที่นายกเทศมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ในสภาได้ ต้องมีการแถลงนโยบายก่อน ทำให้นายอภิชิต ซึ่งเพิ่งเดินกลับจากนอกห้องประชุมเข้ามารู้สึกงุนงง ก่อนลุกขึ้นพูดสั้นๆ ว่า เพื่อความสบายใจของทุกคน ตนของดการพบปะเพื่อนสมาชิกออกไปก่อน จากนั้น นายอภิชิต ได้เดินออกไปจากห้องประชุมทันที ก่อนที่ประธานสภา จะปิดประชุมสภาในเวลาต่อมา
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป